ชีวิตของหนู

น้องมดเป็นเด็กตัวโตเสียงห้าวคล้ายเด็กผู้ชายคุณพ่อเล่าว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างรายวันทั่วไปทำงานคนเดียวเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแม่ของน้องมดป่วยพิการเดินไม่ได้ถ้าวันไหนไม่มีใครจ้างให้ทำอะไรตนก็ต้องเก็บผักมาต้มกินเพราะไม่มีเงินซื้อข้าว บ้านที่อยู่ก็เป็นที่ของใครไม่รู้เป็นที่ดินว่างเปล่าจึงได้เข้าไปสร้างกระต๊อบอยู่ๆ มาได้ประมาณ 11 ปีแล้วไม่ทราบว่าเมื่อไหร่เจ้าของเขาจะมาทวงคืนน้องมดเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่างที่สามารถช่วยได้นับว่าเป็นเด็กกตัญญูคนหนึ่งต้องคอยดูแลคุณแม่ซึ่งพิการก่อนไปโรงเรียนต้องเตรียมอาหารไว้ให้แม่ อาหารก็ไม่ได้มีอะไรมากหาเท่าที่หาได้ประทังชีวิตไปวันๆ เห็นแล้วก็สงสารลูกมากเพราะลำพังน้องมดเองก็มีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือเป็นโรคหัวใจ ตอนน้องมดอายุ 2 ขวบเป็นไข้สูงแล้วชักจึงได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหมอตรวจแล้วพบว่ามีอาการหัวใจรั่วและทำเรื่องจึงส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดสุพรรณบุรีแต่เนื่องจากโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ไม่พร้อมคุณหมอจึงได้ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเด็กแทน น้องมดได้รับการตรวจร่างกายใหม่ทั้งมดทั้งเจาะเลือด เอ็กซเรย์ ตรวจหัวใจผลออกมาคุณหมอบอกว่าเป็นลิ้นหัวใจรั่วต้องผ่าตัดและให้คิวประมาณเดือนพฤศจิกายน 2544 ช่วงนี้ก็ให้มาตรวจตามหมอนัด จนครั้งล่าสุดนัดทางโรงพยาบาลติดต่อให้น้องมดมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ในวันที่ 25 สิงหาคม 2545 คุณพ่อบอกว่าพอรู้ว่าลูกจะได้รับการผ่าตัดก็ดีใจมาก ส่วนแม่ถึงกับน้ำตาไหล ดีใจที่ลูกจะได้หายป่วยเพราะลำพังตนเองความรู้ก็ไม่มีเขียนหนังสือก็ไม่ได้ไม่มีปัญญาจะรักษาลูกให้หายได้ลำพังค่ารถมากรุงเทพก็ต้องกู้เงินคนข้างบ้านมา กลับไปก็ต้องทำงานใช้หนี้ช่วงที่น้องมดผ่าตัดญาติเฝ้าไม่ได้คุณพ่อบอกว่าตนและภรรยาอาศัยวัดแถวฝั่งธนบุรีอยู่ ทุกวันหลวงลุงจะให้เงินเป็นค่ารถเพื่อให้มาเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาล