ชีวิตของหนู

              ด.ญ.วรรณภา พ่อพิลาหรือน้องหวายอายุ 2 ปี 9 เดือนเป็นบุตรของคุณแม่เจนจิรา ศรีบุญเรือง อายุ 25 ปี และคุณพ่อไพโรจน์ พ่อพิลา อายุ 30 ปี คุณพ่อและคุณแม่ทำอาชีพขับรถสิบล้อขนส่งสินค้า

               คุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่าเดิมคุณพ่อและคุณแม่อาศัยอยู่ที่ อ.นาแก จ.นครพนม โดยที่บ้านมีอาชีพทำนา อาศัยอยู่กับคุณปู่ แต่เนื่องจากที่นาอยู่บนพื้นที่สูงทำให้น้ำไม่ถึง จึงได้ผลผลิตน้อย ส่วนใหญ่ข้าวที่ได้มีจำนวนน้อยไม่พอขายจึงได้แต่เก็บเอาไว้กินเองแต่ข้าวมีจำนวนน้อย กินไม่ถึงปีข้าวก็หมดต้องมาซื้อข้าวกิน

               คุณแม่และคุณพ่อมีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตเป็นเด็กปกติดี อายุ 10 ปี เรียนหนังสืออยู่ที่นครพนมกับคุณปู่ ส่วนคนที่ 2 เป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้าปัจจุบันอายุ 8 ปีแต่มีพัฒนาการเท่ากับเด็กอายุ 5 ปี  ส่วนน้องหวายตอนท้องคุณแม่ฝากท้องที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดงอินำ ต.พระซอง อ.นาแก จ.นครพนม และก็คลอดปกติและคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ น้ำหนักถึง 3,500 กรัม น้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี คุณหมอได้เคยแจ้งว่าน้องมีความผิดปกติหรือเป็นโรคหัวใจอะไร พอน้องอายุได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากรายได้ไม่พอใช้คุณพ่อลงมาทำงานที่ชลบุรีและได้พาคุณแม่และน้องหวายมาด้วย ส่วนลูกอีก 2 คนอยู่กับคุณปู่ที่นครพนม ซึ่งพอน้องหวายอายุประมาณเดือนครึ่งคุณแม่สงสัยว่าน้องจะเป็นโรคหัวใจเนื่องจากว่าคุณแม่สังเกตุเห็นว่าน้องมีอาการเหนื่อยง่าย ดูดนมได้น้อย หัวใจเต้นแรงและลองเอาหูแนบฟังเสียหัวใจก็ได้ยินเสียงฟู่ๆ ซึ่งจะไม่ใช่เสียงหัวใจเต้นตุ้บๆ เหมือนคนปกติทั่วไป เนื่องจากว่าน้องสาวของคุณแม่ก็เป็นโรคหัวใจรั่ว คุณแม่จึงได้สงสัยว่าน้องหวายจะเป็นโรคหัวใจเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากช่วงนั้นยังไม่ค่อยมีเงินจึงไม่กล้าจะพาน้องไปหาหมอที่ชลบุรี เนื่องจากสิทธิ์บัตรทองของน้องอยู่ที่นครพนม คุณแม่จึงได้พาน้องกลับมาหาคุณหมอที่โรงพยาบาลนาแก จังหวัดนครพนมตามสิทธิ์

               ซึ่งคุณหมอได้ตรวจพบว่าน้องเป็นโรคหัวใจแต่เนื่องจากไม่มีแพทย์เฉพาะทางจึงไม่สามารถตรวจอย่างละเอียดได้ว่าน้องเป็นโรคหัวใจชนิดใด จึงได้ทำการส่งตัวน้องไปตรวจรักษาต่อที่โรงพยาบาลสกลนครตั้งแต่น้องอายุได้ประมาณ 2 เดือน ทางคุณหมอภารดาที่โรงพยาบาลสกลนครแจ้งว่าน้องเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดแต่ต้องรอให้น้องมีอายุและน้ำหนักมากกว่านี้ก่อนจึงจะทำการผ่าตัดรักษาให้ได้ ก็ได้ทำการตรวจติดตามอาการทุกๆ 2-3 เดือนมาโดยตลอดจนกระทั่งน้องอายุได้ 1 ปี ทางคุณหมอได้แจ้งว่าน้องได้คิวผ่าตัดแล้วโดยจะส่งไปทำการผ่าตัดรักษากัลมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก สถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาลราชวิถี แต่น้องหวายก็ต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไปเนื่องจากขณะนั้นทางห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลราชวิถีได้ทำการปิดปรับปรุงอยู่ พอห้องผ่าตัดเปิดทางมูลนิธิฯ ได้ติดต่อกลับไปหาคุณแม่ ซึ่งจะเป็นจังหวะที่น้องเป็นหวัดหรือไม่สบาย จนต้องเลื่อนนัดผ่าตัดไปอีก 2-3 รอบ ในเวลาประมาณ 1 ปี

               จนกระทั่งน้องหวายได้มาเข้ารับการผ่าตัดในวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2562 น้องอยู่ในห้องไอซียูประมาณ 4 วันก็มีอาการดีขึ้นสามารถขึ้นมาพักที่วอร์ดศัยลกรรมหัวใจได้ ซึ่งตอนก่อนทำการผ่าตัดนั้น คุณแม่มีความวิตดกังวลเป็นอย่างมากคาดว่าหลังการผ่าตัดน้องหวายจะต้องนอนซมพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเป็น 2-3 เดือน แต่หลังจากผ่าตัดจริงๆ น้องอยู่โรงพยาบาลประมาณแค่เพียง 10 กว่าวันก็แข็งแรงจนสามารถกลับบ้านได้ และก่อนผ่าตัดนั้นน้องหวายจะเป็นเด็กที่ผอม กินน้อยมาก กินแต่นมแทบจะไม่กินข้าวเลย ตัวเล็ก แต่หลังผ่าตัดน้องมีอาการสดใส ร่าเริง เล่น ซนมีแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

               ปัจจุบันคุณพ่อและคุณแม่ทำอาชีพขับรถสิบล้อขนส่งสินค้าล่องไปทั่วประเทศ โดยหลังทำการผ่าตัดก็ได้ส่งน้องหวายไปอยู่กับคุณยายที่นครพนม ซึ่งอยู่หมู่บ้านใกล้กับบ้านปู่ที่ลูก 2 คนอยู่ เนื่องจากว่าคุณปู่เลี้ยงหลานทั้ง 3 คนไม่ไหวเลยให้น้องหวายมาอยู่กับคุณยายแทนและคุณพ่อคุณแม่มาทำงานหาเงินส่งไปให้คุณปู่และคุณยายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของลูกๆ ทั้ง 3 คน นานๆ ทีคุณพ่อกับคุณแม่ถึงจะได้กลับไปเยี่ยมลูก เนื่องจากต้องขับรถไปส่งของไกลๆ ทั้งภาคเหนือ ใต้ อีสานและคุณแม่หวังว่าสักวันจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวและน้องหวายเติบโตแข็งแรงมีชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไป