ชีวิตของหนู

              ด.ญ.สุชาวดีหรือน้องเอินเป็นบุตรของคุณแม่สุวรรณธาและคุณพ่อโสดาพงษ์ คุณพ่อประกอบกิจกรรมรถบรรทุกข์รับขนส่งของชำต่างๆ อยู่ที่หัวหิน ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน คุณแม่มีลูก 3 คน พี่ชาย 2 คนเป็นเด็กปกติ ส่วนน้องเอินเป็นลูกสาวคนสุดท้อง

               ตอนตั้งท้องน้องเอินคุณแม่ฝากท้องที่สถานีกาชาดเฉลิมพระเกียรติ หัวหินซึ่งคุณแม่ก็ไปตามนัดทุกครั้ง จนกระทั่งคลอดน้องที่โรงพยาบาลหัวหิน คุณหมอที่โรงพยาบาลหัวหินได้ตรวจร่างกายน้องเอินก่อนที่จะกลับบ้านหลังคลอดพบว่าน้องมีหัวใจเต้นไม่ปกติ คุณหมอสันนิษฐานว่าน้องน่าจะเป็นโรคหัวใจ แต่เนื่องจากที่โรงพยาบาลหัวหินไม่มีเครื่องมือในการตรวจอย่างละเอียด จึงได้ส่งตัวต่อให้มาตรวจที่โรงพยาบาลราชบุรี ทางโรงพยาบาลราชบุรีได้ทำการตรวจ Echo หัวใจ จึงพบว่าน้องเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด คุณแม่จึงได้ไปทำเรื่องขอหนังสือส่งตัวจากโรงพยาบาลหัวหินที่เป็นต้นสังกัดของน้องเอนเพื่อทำเรื่องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็ก ซึ่งคุณแม่ก็ได้พาน้องเอินมาตรวจและติดตามอาการที่โรงพยาบาลเด็ก แต่เนื่องจากว่าน้องเอินมีความผิดปกติหลายอย่างทางโรงพยาบาลเด็กจึงได้ประสานงานมาที่มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กเพื่อให้ทำการผ่าตัดรักษาน้อง

               พอน้องเอินอายุได้ประมาณ 3 เดือน คุณแม่ได้พาน้องเอินมาตรวจกับคุณหมอพีระพัฒน์ ซึ่งคุณหมอได้แจ้งว่าโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่น้องเอินเป็นนั้นเป็นชนิดที่พบได้ยาก ประมาณ 1 ใน 100 และมีความเสี่ยงสูงมากในการทำการผ่าตัดคือ ประมาณ 50 : 50 ซึ่งคุณหมอได้แจ้งว่าหากไม่ทำการผ่าตัดรักษาน้องก็น่าจะมีชีวิตอยู่ได้เต็มที่ไม่เกิน 6 เดือน แต่ในขณะที่น้องเอินอายุได้เพียง 3 เดือนอาการของน้องทรุดลงมาก คุณหมอพีระพัฒน์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดให้น้องเอินขณะที่น้องมีอายุได้ 3 เดือน 6 วัน ซึ่งคุณหมอแจ้งไว้ว่าน่าจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 10 ชั่วโมง แต่พอผ่าตัดได้เพียง 7 ช.ม. คุณหมอได้ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วมาแจ้งกับคุณพ่อคุณแม่ว่าน้องหยุดหายใจแล้ว คุณหมอพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่พอผ่าตัดครบ 10 ชั่วโมง น้องก็กลับมาหายใจได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งคุณหมอและทีม พร้อมทั้งคุณพ่อคุณแม่ดีใจมากเหมือนปาฏิหาริย์ที่น้องสามารถหายใจได้อีกครั้ง หลังออกจากห้องผ่าตัดน้องเอินต้องพักอยู่ในห้องปลอดเชื้อประมาณ 1 เดือน ซึ่งในระหว่างนี้ทางคุณหมอพยายามจะเย็บปิดแผลตรงหน้าอกให้น้อง แต่ถ้าเย็บเมื่อไหร่น้องก็จะมีอาการหยุดหายใจทุกครั้ง ดังนั้นคุณหมอและทีมพยาบาลจึงตัดสินใจไม่เย็บปิดแผลของน้องใช้เพียงผ้าก็อตปิดแผลเอาไว้กันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป จนกว่าน้องจะอาการดีขึ้นจึงได้ทำการเย็บปิดแผลผ่าตัดให้น้องในภายหลัง และน้องต้องใช้ยาเยอะมากๆ น้องโดนเจาะ หลังจากนั้นจึงสามารถย้ายออกมาอยู่ห้องธรรมดาได้แต่ก็ยังต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถีต่ออีกเกือบ 1 เดือน คุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านที่หัวหินได้

               ซึ่งหลังจากทำการผ่าตัดนั้น คุณแม่ก็ยังคงต้องพาน้องเอินมาตรวจและติดตามอาการตามนัดทุกครั้งจนถึงปัจจุบัน

               ปัจจุบันน้องเอินอายุ 11 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นป.6 โรงเรียนเทศบาลบ้านสมอโพรง (ญาณวิลาสอุทิศ) ที่หัวหิน โดยอาศัยอยู่กับพี่ชายคนที่ 2 ที่กำลังเรียนอยู่ในชั้น ปวช.ปี 1 เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่ได้แยกทางกันตั้งแต่ปี 2550 คุณแม่จึงต้องไปทำงานเป็นช่างเสริมสวยที่ร้านในหัวหินมีรายได้ประมาณหมื่นต้นๆ ใช้เลี้ยง 3 ชีวิตคือคุณแม่ ลูกชายคนรองและน้องเอิน โดยทั้ง 3 คนเช่าบ้านอยู่ที่หัวหิน ซึ่งหลังจากผ่าตัดไปแล้วน้องเอินก็สามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ แถมยังเรียนเก่งมาก สามารถสอบได้ที่ 1 ของชั้นเกือบทุกปีและยังเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งการเป็นประธานนักเรียนในสมัยอยู่ชั้น ป.5 การเข้าแข่งขันวิชาสังคมเด็กเก่งในระดับเทศบาลที่หัวหิน ได้รับรางวัลชมเชยอันดับที่ 1  การแข่งขันจัดสวนถาด การแข่งขันจักรสาน การแข่งขันสวดมนต์ซึ่งน้องเอินก็สามารถชนะเป็นที่ 1 ของจังหวัดชนได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับเขต และอื่นๆ

               ในอนาคตน้องเอินอยากจะเป็นคุณครู เนื่องจากชอบที่จะสอนน้องๆ หรือเด็กคนอื่นๆ และน้องจะสอบเรียนต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนหัวหินต่อไป