ชีวิตของหนู

         ด.ญ.ดลฤดี กรศรี  อายุ 2 เดือน มีพี่น้อง 3 คน พี่คนโตเป็นผู้ชายอายุ 16 ปี ส่วนพี่คนรองเป็นผู้หญิง อายุ 6 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง ส่วนน้องดลฤดีเป็นบุตรคนที่ 3 ของคุณพ่อธวิทย์ชัย กรศรี กับคุณแม่กรณิการ์ กรศรี คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างขับรถรับส่งนักเรียนที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ส่วนคุณแม่มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง

            น้องดลฤดีเกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560  ซึ่งคุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนเริ่มท้องน้องนั้น คุณแม่ไม่ทราบว่าตนเองตั้งท้อง ก็ยังไปทำงานรับจ้างกรีดยางตามปกติ มาทราบว่าตอนเองตั้งท้องเมื่อน้องอายุได้ 4 เดือนแล้ว ในช่วงแรกจึงไม่ได้มีการบำรุงน้องมากนัก  แต่หลังจากทราบว่าตนเองตั้งท้องก็ได้ไปฝากครรภ์และไปตรวจตามนัดมาโดยตลอด ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าปกติดี จนกระทั่งตอนที่ท้องน้องได้ประมาณ 7 เดือน คุณแม่ก็ออกไปทำงานกรีดยางตามปกติ แล้วก็เกิดปวดท้องคลอด น้องดลฤดีจึงคลอดออกมาตอน 7 เดือน มีน้ำหนักแรกคลอดเพียง 1,590 กรัม และตอนคลอดน้องต้องอยู่ในตู้อบ ซึ่งทางคุณหมอได้แจ้งว่าน้องไม่มีรูทวาร ทางโรงพยาบาลแกลงจึงได้ทำเรื่องส่งตัวน้องมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเด็ก ซึ่งพอน้องอายุได้ 2 วันก็ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเด็ก ซึ่งคุณหมอที่โรงพยาบาลเด็กได้ทำการผ่าตัดเจาะรูทวารให้  ระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเด็กนั้น คุณหมอที่โรงพยาบาลเด็กได้ตรวจร่างกายน้องแล้วพบว่าน้องเป็นดาวน์ซินโดรมและเป็นโรคไทรอยด์ร่วมอีกด้วย หลังจากพักฟื้นแล้ว น้องก็ได้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน และได้มีนัดตรวจติดตามอาการต่างๆ ของน้องอีกครั้ง ซึ่งในวันที่ 12 กันยายนเมื่อคุณแม่พาน้องมาตรวจติดตามอาการกับคุณหมอทางด้านพันธุกรรม คุณหมอตรวจพบว่าน้องมีเสียงหัวใจเต้นผิดปกติและมีอาการหายใจสั้นๆ ถี่ๆ จึงได้ส่งตัวไปตรวจที่แผนกโรคหัวใจเด็ก ซึ่งคุณหมอได้ทำการตรวจ Echo ให้แล้วพบว่าน้องเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดแบบมีเส้นเลือดเกิน  ทางโรงพยาบาลเด็กจึงได้ประสานงานมาที่มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก และน้องจึงถูกส่งตัวต่อมายังมูลนิธิฯ เพื่อทำการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่โรงพยาบาลราชวิถีตามขั้นตอน

            โดยน้องดลฤดีได้เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดมีเส้นเลือดเกินในวันอังคารที่ 26 กันยายน 2560 ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอและหลังผ่าตัดน้องมีการดีขึ้นมาก สามารถดูดนมได้ดี น้องฟื้นตัวเร็วมาก น้องใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถีเพียง 4 วันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2560  

            คุณแม่ฝากขอบคุณผู้บริจาคทุกๆ ท่าน ผ่านมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก  หากไม่ได้รับน้ำใจจากท่านทั้งหลาย น้องคงไม่สามารถมีชีวิตกลับมาได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป