ชีวิตของหนู

           ด.ช.ธนสรณ์ มีชาญเชาว์หรือน้องนิวตั้น อายุ 7 ปี เป็นบุตรของคุณแม่หนึ่งฤทัย วัฒนไกร อาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร คุณแม่เล่าให้ฟังงว่าน้องนิวตั้นเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด มีเส้นเลือดตีบและมีหัวใจรั่ว รวมทั้งมีอาการอื่น ๆ ร่วมอีกหลายอย่าง เวลาน้องนิวตั้นทำอะไรเร็ว ๆ หรือวิ่งเล่นก็มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย หอบ ทำให้มีอาการปากเขียว เล็บมือเล็บเท้าเขียว แต่ถ้าน้องรู้ตัวนั่งพักสักครู่อาการก็จะดีขึ้น น้องมีนัดตรวจติดตามอาการกับคุณหมอทุก ๆ 4 เดือนที่โรงพยาบาลเด็ก ซึ่งคุณหมอมักจะย้ำเสมอ ๆ ว่าอย่าให้น้องฟันผุเพราะถ้าน้องฟันผุเชื้อโรคอาจจะเข้าไปตามกระแสเลือดและส่งผลกับโรคหัวใจของน้องได้  คุณแม่จึงต้องพาน้องไปตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 6 เดือน เวลาน้องนิวตั้นไปโรงเรียนน้องก็จะเป็นคนทำอะไรช้า เวลาเดินขึ้นไปบนห้องเรียนซึ่งอยู่ชั้น 2 ก็จะต้องค่อยๆ เดินช้า ๆและต้องไปนั่งพักก่อนที่จะเดินเข้าห้องเรียน วิชาพละครูก็จะให้ทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ และให้น้องนั่งดูเพื่อนๆ แทน

            จนกระทั่งน้องนิวตั้นอายุได้ 6 ขวบ คุณหมอแจ้งว่าน้องอายุถึงเกณฑ์ที่จะสามารถทำการผ่าตัดได้แล้วจึงได้ส่งตัวน้องไปทำการสวนหัวใจเพื่อทำการตรวจและเตรียมข้อมูลสำหรับการผ่าตัดครั้งนี้ หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลก็ได้โทรมาแจ้งว่าได้ประสานให้น้องไปทำการผ่าตัดที่ศูนย์หัวใจของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ซึ่งตอนแรกคุณแม่มีความกังวลใจมากเพราะโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่นนั้นเป็นโรงพยาบลเอกชน กลัวว่าจะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว คุณแม่จึงขอเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลราชวิถีแทนได้ไหม แต่คุณพยาบาลที่โทรมาแจ้งเรื่องการผ่าตัดครั้งนี้นั้นได้บอกว่าเป็นการผ่าตัดครั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กทางมูลนิธิฯ จะช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดให้ทั้งหมด คุณแม่จึงโล่งใจและคลายกังวลไปเลย

             จนวันที่ 16 มกราคม 2565 น้องได้เข้าไปนอนที่โรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด น้องนิวตั้นรู้สึดกลัวและกังวลเป็นอย่างมาก น้องแอบบร้องไห้บ่อย ๆ คุณแม่ก็ได้แค่ปลอบใจให้น้องพยายามทำใจให้สบาย ให้เชื่อมั่นและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอ คุณหมอเก่งมาก คุณหมอต้องช่วยให้น้องหายและจะได้วิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ได้เล่นกีฬาที่ชอบและอยากจะเล่น ซึ่งจริงๆ คุณแม่เครียดและกังวลมากแต่ก็ต้องพยายามไม่แสดงออกให้น้องรู้ น้องนิวตั้นเข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 น้องอยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วก็ได้ออกมาพักรักษาตัวต่อที่ห้อง CCU ประมาณ 4 คืน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงโควิดทางโรงพยาบาลจึงไม่ได้ให้เข้าไปเยี่ยมน้อง แม่ได้แต่แอบมองน้องผ่านหน้าต่างและเทียวขับรถไปกลับกรุงเทพฯ-สมุทรสาครเพื่อมาดูน้องทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 23 มกราคม คุณหมอบอกว่าน้องอาการดีขึ้นมากแล้ว สามารถกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ และคุณแม่ดีใจมากๆ ที่การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ต่อไปนี้น้องนิวตั้นจะได้สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กคนอื่น ๆ แล้ว